Monday, April 14, 2014

สุวรรณภูมิยุคพัฒนา

สำหรับใครที่ทันการเดินทางด้วยเครื่องบินจากแต่ก่อนที่มีแค่ดอนเมืองอาคารเดียว เป็นสองอาคาร และย้ายมาเป็นสุวรรณภูมิ ช่วงแรกๆ ของการเปลี่ยนถ่าย มีความไม่สะดวกสบายหลายประการ จนหลายๆ เสียงยี้ ถึงคำว่าสนามบินที่จะเป็น hub ของอาเซียน เราจะไม่พูดถึงอดีตแต่มาดูปัจจุบันกันดีกว่า

ยุคนี้สุวรรณภูมิพัฒนาไปมากจริงๆ
ทั้งรายละเอียดตัวอาคาร การขนส่ง และปริมาณการจราจร จนหลายๆครั้งที่รันเวย์มีปัญหา ก็ทำให้ระบบการบินทั่วภูมิภาครวนได้เหมือนกัน แต่ที่อยากจะเล่าและใหม่ในประสบการณ์ของผู้เขียน คือเดี๋ยวนี้มีคอมพิวเตอร์ตั้ง คล้ายๆร้านเนตออนไลน์ให้ใช้กันฟรี มีเก้าอี้นั่งที่ปรับนอนได้เหมือนเบาะนวด หรือการรับพาสเวิร์ดฟรีไวไฟก็มีจุดแจกเยอะขึ้นไม่น้อยเหมือนแต่ก่อน แม้แต่ห้องน้ำที่สมัยเปิดใหม่ๆ ก็ด่ากันขรมแต่ตอนนี้ปรับปรุงซะสวยเช้ง แถมมี digital wall ให้เล่นอีกด้วย

ก็ได้แต่หวังว่าบัานเราจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ไม่งั้นถูกเพื่อนแซงแน่ ได้ข่าวมาว่า ชางฮีที่สิงคโปร์เตรียมเปิดเทอร์มินัลใหม่ และเวียดนามกำลังสร้างสนามบินใหม่อีก คู่แข่งรอจ่อคอหอยอยู่แล้ว

ดินแดนแห่งความเสรี

11 ชั่วโมงกับการเดินทาง ความคาดหวังที่คิดว่าความเป็นเมืองอุตสาหกรรม น่าจะมีบ้านเรือนอาคารอย่างหนาแน่น ตรงกันข้าม เมื่อเครื่องบินลดระดับ สิ่งที่ปรากฎต่อสายตาคือความเขียวขจีสลับกับท้องทุ่งข้าวสาลี และพื้นที่เปล่าที่เก็บเกี่ยวแล้ว และกลุ่มของบ้านเรือนที่กระจายตัวเป็นหย่อมๆ ถนนที่เรียบง่ายแต่ได้รับการวางมาแล้วอย่างดี เข้าถึงทุกพื้นที่ไร่นา แม้จะมีคดเคี้ยวบ้างแต่ก็มีขนาดเท่าๆกันตามมาตรฐาน กลุ่มต้นสนหนาแน่นอยู่กระจายเป็นหย่อมๆ อย่างเป็นระเบียบ ผิดจากสิ่งที่แต่เป็นในทางที่เห็นแล้วต้องทึ่งมากว่าผิดหวัง ว่าเมืองที่เจริญขนาดนี้ไฉนพื้นที่สีเขียวยังคงมากมายได้ขนาดนี้ สนามบินที่นี่ก็ดูเรียบง่าย ไม่ต้องหรูหราแต่มีฟังก์ชันอำนวยความสะดวกครบครัน การจัดตารางไฟลท์ช่วยได้เยอะทำให้ผู้โดยสารไม่เยอะ รับกระเป๋ากันได้สบายแม้กระเป๋าจะออกมาช้าสักหน่อย. การเดินทางเข้าเมืองก็สะดวกสบาย ออกสนามบินลงรถไฟได้เลย ที่น่าแปลกกว่าคือที่ซื้อตั๋วอยู่ในชานชาลา ไม่มีประตูกั้นใดๆ ทั้งสิ้น นั่นหมายความว่าไม่ซื้อตั๋วก็ขึ้นรถไฟได้เลย ถึงมาเป็นชื่อตอนว่า ช่างเสรีจริงๆ เมืองนี้ ประเทศนี้ แต่คิดว่าคนเมืองนี้คงมีความเคารพในตัวเองมากพอ ที่จะไม่ขโมยบริการ แม้จะสามารถทำได้ก็ตาม ทั้งนี้คงด้วยความเข้มงวดที่อาจแจ๊กพอตแตกโดนตรวจระหว่างทางแล้วต้องโดนปรับราคาแพงโข ก็เป็นได้ เริ่มสนุกกับการได้เรียนรู้ความคิดจิตใจของมนุษย์ในอีกซีกโลกหนึ่งละ

Sunday, April 13, 2014

การเดินทางที่แสนยาวไกล

ถ้าพูดถึงการเดินทาง หลายคนคงนึกถึงการออกเดินทางท่องเที่ยว หรือทำธุรกิจ แต่ในบางมิติก็หมายถึง การตัดสินใจเพื่อเริ่มต้นเส้นทางใหม่ของชีวิต มนุษย์ทุกคนล้วนมีเส้นทางที่เริ่มออกเดินของตัวเองมาอยู่แล้ว เราจะรู้สึกปลอดภัยเมื่อเราอยู่บนเส้นทางเดิมเพราะความคุ้นชิน แต่บ่อยครั้งความคุ้นชินนี้ก็อาจทำให้เราเบื่อหน่าย 

ดังนั้นจึงไม่แปลกเลยที่มนุษย์ส่วนใหญ่ จะเลือกอยู่บนเส้นทางเดิม ทนอยู่กับเส้นทางเดิมแม้จะเบื่อแค่ไหนก็ตาม นั่นเพราะปัจจัยในการตัดสินใจในชีวิต แต่ก็มีคนอีกกลุ่มหนึ่งไม่น้อยในโลกใบนี้ที่จะตัดสินใจเริ่มต้นกับเส้นทางใหม่ๆ ด้วยหวังว่าจะนำพาไปสู่จุดหมายที่ดีกว่าหรือน่าตื่นเต้นกว่า

แล้วคุณล่ะจะเลือกทางเดินไหน?
ส่วนผมผมชอบความตื่นเต้นท้าทายครับ ผมรู้สึกว่าชีวิตคงไม่สนุกถ้าเราต้องทนเดินบนทางลำบากเส้นเดิมๆ  ที่รอบๆ ข้างก็เหมือนเดิม ทั้งๆ ที่เรามีทางเลือกทางเดินใหม่ ที่อาจจะลำบากกว่าเดิมก็ได้ แต่มันก็น่าตื่นเต้นดี กับช่วงชีวิตที่เรามีอยู่หรือเปล่า?

When the journey begins ...

はい お久しぶりです

Well... Sorry. I just have time to update blog. Let's me bring you to the land of castle! Sorry again but it will be in Thai!
Enjoy!!!