Thursday, December 14, 2006

การเดินทางกับเพื่อนใหม่ #1

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของเรานั้น มันช่างแตกต่างกับแต่ก่อนเสียเหลือเกิน
แต่ก่อนต้องรีบตื่นแต่เช้า เพื่อไปเฝ้าอาจารย์ทั้งวัน นั่งวุ่นอยู่กับงานจนเย็น ค่ำ ดึกดื่น โงหัวมาอีกทีก็มืดเสียแล้ว
เรียกได้ว่ายิ่งกว่า เซ็นทรัลมิดไนท์เซลล์ เที่ยงวันยันเที่ยงคืนเสียอีก ล่าสุดก็ตีสี่ถึงได้โต๋เต๋กลับบ้าน
บางวันก็อดข้าว อดน้ำ เนื่องจากความต่อเนื่องของงาน และความซูเปอร์บีซี่ของอาจารย์ ทำให้ต้องเฝ้ากันทั้งวันทั้งคืน
เลยทีเดียว

แต่วันนี้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปมาก ตื่นสายๆ ได้ วันๆ ไม่ค่อยได้ทำอะไร ไปโรงพยาบาลกลับบ้าน กินยา นอน และตื่นมากินยา
อีกที ดูเหมือนจะมีความสุข แต่ก็รู้สึกวืดๆ เหมือนกัน ว่าชีวิตมันจะไ้ร้ค่าไปไหมนะ แต่นั่นแหละ ชีวิตเกิดมาจะเอาอะไรมาก
มีความสุขกับทุกวัน กับปัจจุบันก็พอ เพราะไม่รู้จะตายวันไหน เกียรติภูมิ เีกียรติยศ สร้างสมไว้เยอะเท่าไหน
คบคนไว้มากเท่าไหร่ ความรู้สึกรักโลภโกรธหลงมากมายแค่ไหน ตายไปก็มลายสิ้นไปอยู่ดี

เมื่อวานก็ได้บอกที่บ้านไปแล้ว ว่าเป็นอะไรและเิกิดอะไรขึ้น ม่าม๊าก็ดูแลดีมากๆ เอาข้าวเอาน้ำมาส่ง เช้าๆ ปลุกให้กินยาอีก
ขนมนมเนยเตรียมไว้เพียบเลย จริงๆ อยากจะบอกว่าไม่เป็นอะไรจ้า ยังเดินได้ หาอะไรกินได้ ไม่ได้ป่วยนอนแหมบอยู่บนเตียง แต่มาม๊าทรีดเหมือนกำลังจะตายเลย อิอิ .... ตอนบอกมาม๊า มาม๊าก็ไม่ได้มีอาการตกใจอะไรมากนะ เพราะแอบบอกแบบเรียบๆ เงียบๆ ไม่ซีเรียส มาม๊าบอกว่า อายุยังน้อยอยู่เลย
จะรีบป่วยรีบตายไปทำไม แล้วก็บ่นๆ ๆๆ เรื่องเราไม่กิน ไม่ดูแลสุขภาพ ซะประมาณนึง จนต้องรีบเผ่นหนีออกมา
อิอิ ... ก็มันทำได้ดีแค่นั้นนี่หน่า ไม่มีคนมาช่วยดูแลนิ.... ทำได้เท่านั้นก็สุดๆ แล้ว.... โรคภัยมันจะมา มันก็มาของมันเอง
แม้ว่าเราจะดูแลดีแค่ไหนก็ตาม ประมาณว่า กรรมเก่าด้วยอ่ะนะ
ตอนนี้ก็เลย เสมือนว่าเป็นคุณชายนิดๆ อิอิ... ม่ายรู้ว่าจะเป็นได้อีกนานแค่ไหนนะ ....ตอนนี้ก็ขอแอบสบายนี้ดส์นึง
เผื่ออนาคตอาจจะต้องลำบากกว่านี้

ตอนนี้แอบสนุกกับการหาข้อมูล และวางแผนการ diag ตัวเอง ว่าจะต้องไปโรงบาลโน้น โรงบาลนี้ ที่ไหนอย่างไร
ต้องทำบัตรที่โรงบาลไหนบ้าง แล้วจะให้หมอไหนตรวจ ไปรับยาที่ไหนดี ค่าใช้จ่ายอันไหนที่ไหนถูกกว่า
ตังค์ก็ม่ายค่อยจะมี คงต้องหางานทำอะไรบ้างแล้วล่ะ จะได้เอามาจ่ายค่ายา ค่าหมอ .....อื่ม ทำอะไรดีน้า......
แล้วทำอะไรได้บ้างน้า....... ทำไม๊ ไม่เป็นโรคที่ใช้จ่ายถูกๆ น้า หรือไม่ก็เป็นโรคที่ตายไปเลยทีเดียว
จะได้ไม่ต้องเปลืองตังค์ เปลืองเวลาเนอะ

เฮ้อ... ยังเหลือเรื่องลำบากใจอีกอย่าง ก็เรื่องเรียนนี่แหละ .... ทำไงดีน้า...เวลาเรียนก็เหลือน้อยเต็มที
เวลาชีวิตก็มีจำกัด..... เรียนไปแล้วจะได้อะไรล่ะเนี่ย แลกกับสุขภาพที่เสียไป เอาคืนมาไม่ได้เหมือนกัน
แต่ก็นะ มาเกือบจะสุดทางแล้ว จะทิ้งไปก็ใช่ที่ ทำให้มันเต็มที่ที่สุดละกัน อาจต้องมีแผนอื่นๆ มาใช้ในการเลี่ยง
ที่จะทำให้งานเสร็จโดยที่ไม่ต้องไปโรงเรียนบ่อยๆ แบบแต่ก่อน ทำไงดีหว่า ยากแฮะ.... ไม่น่าเล้ยตู
ไม่น่ารู้เลยว่าเป็นอะไรตอนนี้ แต่ก็นะ รู้เขารู้เรา... รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง (เอ๊ะ เกี่ยวไหมเนี่ย) กร๊ากกกกก

Wednesday, December 13, 2006

ลาก่อนเพื่อนรัก

หลังจากเริ่มรู้ว่ามีเพื่อนใหม่ เราก็เริ่มที่จะ start ยา ซึ่งถือว่าเยอะมากๆ วันๆ นึงรวมกันร่วม 13 เม็ดได้
หวังว่ามันจะไม่เยอะกว่านี้นะ เพราะตัวเราเองเป็นคนกินยายากเอามากๆ กินทีไรจะอาเจียนทุกที
เฮ้อ...แต่อีกหน่อยคงจะชินเองแหละ....

อื่ม ไม่รู้จะบอกคนรอบข้างยังไงดีนะ
มันเป็นอาการที่อยู่กับคนที่เรารักไม่ได้ บอกใครก็ไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น และจะเกิดปฏิกิริยาอย่างไร
เราไม่อยากจะเพิ่มความเสี่ยงทั้งต่อ ตัวเราเอง และคนอื่น ให้เกิดอาการ infection ใดๆ ทั้งสิ้น แม้จะเปอร์เซ็นต์เดียว
ร่างกายเราก็คงจะวีคลงเรื่อยๆ ไปไหนหรือทำอะไรก็คงจะได้ไม่มากนัก ไปเที่ยวอย่างที่เราเคยอยากไป กับคนที่เราอยากไป ก็คงจะทำไม่ได้เท่าไหร่ ตัวเราเองน่ะไม่ห่วงอะไรเลย จะเป็นจะตายก็ไม่ซีเรียสเท่าไหร่
แต่เป็นห่วงคนที่เรารักล่ะนะ ทั้งกลัวว่าเค้าจะไม่ปลอดภัย และเกรงว่าเค้าคงไม่เข้าใจ ว่าทำไมเราถึงหายไปจากชีวิตเค้า
มันก็คงยากในช่วงแรกๆ ที่จะทำใจ แต่ในอนาคตคนที่เรารัก เค้าก็คงจะชิน ที่ภาพของเราจะเลือนหายจากไปเรื่อยๆ ดีเหมือนกัน จะได้ทำใจไว้ล่วงหน้า..... หากมีอะไรผิดพลาด

เคยคุยกับคนที่เรารักคนนึง ว่าอยากทำอะไร ถ้ารู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย เ้ค้าบอกว่า เค้าจะเอาเงินทั้งหมดที่เก็บไว้ ไปเช่าู่รีสอร์ทแห่งนึงริมทะเล จะอยู่ที่นั่นจนตาย .... อื่ม เราก็อยากทำแบบนั้นบ้างเหมือนกันนะ แต่ึคงม่ายมีตังค์ทำขนาดนั้น แถมอาจจะต้องรักษาตัวตามที่ควรจะทำและควรจะเป็น แม้ว่ามีโอกาสที่จะหายหรือไม่ก็ตาม แถมยังต้องใช้เวลารักษาเนิ่นนาน จนแทบจะตายจากกันได้เลย เฮ้อ....อะไรๆ มันคงไม่ง่ายเท่าไหร่ล่ะนะ อยากทำอะไรตามใจตัวเอง ก็ึคงยากเหมือนกัน

ทั้งหมดทั้งมวล มันคงจะทำให้เราเสียเพื่อนรักไป ในขณะที่เราได้เพื่อนใหม่ที่ไม่ต้องการมา เวลาที่จะได้ใช้กับเพื่อนที่เรารัก ก็จะหมดลงไปเรื่อยๆ จริงๆ เราก็ุคุยโทรศัพท์กันได้นะ แต่มันจะทำให้เราคิดถึง อยากเจอ อยากไปหา แต่มันเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้น่ะสิ มันจะทรมานมากกว่าหรือเปล่า อยู่ห่างกัน ไม่ได้ติดต่อกัน แน่นอนว่าคนเราก็จะเปลี่ยนไปได้
ใจหายเหมือนกัน ที่ต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างนี้ แต่เพื่อ ครอบครัว เพื่อนที่เรารัก สังคมที่เราเคยอยู่ เราจำเป็นต้องทำอย่างที่อาจารย์หมอแนะนำไว้
แต่เราว่า เพื่อนรักเราก็จะมีเพื่อนใหม่ๆ ที่เป็นคน มาถ่ายเทความรู้สึกดีๆ แทนเราได้ ส่วนเราก็มีเพื่อนใหม่นะที่อยู่ในร่างกายเรา ซึ่งเราก็คงต้องดูแลให้เค้ากลับบ้านไปเร็วๆ

ปล.
เมื่อวานนี้ได้คุยกับเพื่อนที่เรารักคนนึง อยู่ดีๆ ก็คุยไม่ได้ล่ะ ขับรถไปร้องไห้ไป นานเชียวกว่าจะหยุด งงเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่รู้ว่าอาการนี้ทำให้เราเซนต์ซิทีฟขึ้นด้วยหรือเปล่าหว่า ไม่เคยเป็นมาก่อนนะ ต้องขอโทษเพื่อนคนนั้นด้วยนะ ที่พูดอะไรไม่ออกเลย จะอธิบายก็ติดอยู่ที่คอ น้ำตามันไหลออกมาก่อน ว้า..แย่จัง อ่่อนแอจริงๆ วุ้ย.... เข้มแข็งหน่อยไอ้หนุ่ม

Monday, December 11, 2006

สวัสดีเพื่อนใหม่

วันนี้เป็นวันที่สองที่ได้รู้ว่ามีเพื่อนใหม่อยู่ในตัวเรา

จริงๆ แล้ว ถือเป็นวันแรกก็ได้นะ ที่จะมั่นใจว่ามีเพื่อนใหม่จริงๆ
เรื่องมันเริ่มจากเมื่อวานนี้ล่ะนะ ที่นึกคึกหลังจากที่ทำงานติดต่อกันมานานแสนนาน
คิดว่าจะให้อะไรกลับตัวเองได้บ้าง....เลยไปเช็คอัพร่างกาย ตามโปรแกรมของโรงพยาบาล
ในใจก็คิดลึกๆ แหละว่า จะต้องเป็นโรคอะไรสักอย่างหนึ่ง ไม่ตับ ก็ไต ไม่ไตก็กระเพาะ
เพราะความที่กินข้าวไม่ตรงเวลา และมีอาการอ่อนเพลียอยู่เนืองๆ .....
รพ.เอกชน ระบบก็รวดเร็วปุ๊บปั๊บ พอดีไปเช้าด้วย คนก็เลยน๊อยน้อย

หลังจากตรวจทุกอย่างเสร็จสรรพก็เข้าพบหมอ เพื่อให้หมออ่านผลตรวจให้ฟัง
ผลทุกอย่างปกติหมด ทั้งตับทั้งไตไส้พุง แต่..........มีบางสิ่งผิดปกติ!!
หมอสงสัยว่า มีเพื่อนใหม่มาอยู่ในร่างกายเราด้วยล่ะ

หลังจากคลับคล้ายคลับคลาว่าจะมีเพื่อนใหม่ วันนี้จึงได้ฤกษ์งามยามดี
ไปตรวจหน่อยให้แน่ใจว่าเรามีเพื่อนใหม่จริงหรือเปล่า......เอ่ย

หลังจากคอนซัลท์หมอเฉพาะทางอยู่นานสองนาน
หมอทุกท่านก็ลงความเห็นเหมือนกันว่า เรามีเพื่อนใหม่อยู่ค่อนข้างจะแน่แล้ว 95%
ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า เพื่อนใหม่เป็นใคร เพื่อนใหม่มาทำอะไร และมาจากไหน
เพื่อนใหม่หน้าตาเป็นยังไงก็ไม่่รู้ แตที่รู้คือ เพื่อนใหม่ค่อนข้างดุอยู่สักเล็กน้อย ทำให้ร่างกายเราเป็นรูบะเิริ้มเลย
เพื่อนใหม่น่าจะเข้ามาอาศัยอยู่ไม่นาน แต่เพื่อนใหม่ไม่เคยก่อความรำคาญให้เรารู้สึกว่ามีเค้าอยู่มาก่อน
เพื่อนใหม่จะอยู่กับเราไปเรื่อย และจะชักชวนเพื่อนของเพื่อนมาอยู่เพิ่มขึ้นเยอะๆ
แต่ตอนนั้นเราคงมีที่ให้เค้าอยู่กันได้ไม่พอ ....เพื่อนใหม่อาจจะไม่พอใจประท้วงบอยคอร์ดร่างกายเราก็ได้

การได้รู้ว่ามีเพื่อนใหม่มาอยู่ด้วย จริงๆ ก็ควรจะเีสียใจทุกข์ใจนะ
แต่เราก็รู้่สึกเฉยๆ มากกว่า ไม่เดือดไม่ร้อน ว่าเพื่อนใหม่จะทำให้เราตายเร็วขึ้นหรือไม่
สิ่งที่เป็นกังวลมากกว่า คือ เราจะแพร่เอาเืพื่อนของเราให้คนอื่นหรือเปล่านะ
เราจะต้องดูแลตัวเองมากขึ้น ไม่ให้เพื่อนใหม่ตัวใหญ่ไปมากกว่านี้
การดูแลก็ดูท่าจะลำบากลำบนเหมือนกัน ร่างกายเราอาจจะทรมานมากขึ้น และเสื่อมไวลง
เอฟเฟกซ์ของยาคงทำให้โทรมลงแน่ๆ เลย
เราต้องห่างกับเพื่อนๆ และคนอื่นๆ แล้วล่ะ อย่างที่ อาจารย์หมอบอก เพื่อป้องกันไม่ให้เพื่อนใหม่กระโดดไปที่อื่นๆ
คงถึงเวลาที่เราต้องอยู่คนเดียวอย่างที่เราเคยคิดคาดการณ์ไว้แล้วจริงๆ ว้า....มาเร็วจัง

ปล.
รู้กรุ๊ปเลือดแล้วล่ะ เพิ่งรู้จากตรวจร่างกายนี่เอง เป็นคนกรุ๊ป A แหละ เอ๊.....เค้าทำนายว่ายังไงนะ คนกรุ๊ปนี้ ตายไวหรือเปล่าน้อ

Wednesday, November 22, 2006

เธอไม่เคยรู้ และเธอจะไม่รู้












เหมือนเป็นคนอื่น
ธงไชย แมคอินไตย

โดย ผู้ชายสายน้ำ

Friday, October 13, 2006

เพื่อใคร...สักคน












หนุ่มใต้สาวเหนือ
ลานนา คัมมินส์











น้านา (Karaoke)
เบิร์ด ธงไช











เถียงกันทำไม (Karaoke)
เบิร์ด ธงไชย

หมายเหตุ: Karaokoe ต้องรอโหลดนานหน่อยนะ ใจเย็นๆ :)
โดย ผู้ชายสายน้ำ

จ้องตากับความเหงา








จ้องตากับความเหงา
ลานนา คัมมินส์

ในค่ำคืนที่เหว่ว้า ฉันนั้นจ้องตากับความเหงา
ชีวิตว่างเปล่า ไม่มีใคร

โลกของฉันมันเปลี่ยนสี ตั้งแต่เค้าทิ้งฉันไป
และ ฉันก็เหลือแค่ใจร้าวๆ

จะคิดถึงคำว่ารัก ทิ้งเลย ผ่านไปให้มันคุ้น
ให้ใจเคยอุ่นคุ้นความหนาว

จะยังไรก็ช่างมัน ก็จะคิดถึงวันเก่า
ดูซิ น้ำตาจะมีเท่าไร

เมื่อมันเหงาก็ต้องเหงา ยังไงต้องทน
ถนนของความเดียวดายยังอีกไกล
เมื่อมันเหงาก็ต้องเหงา ต้องอยู่ให้ได้
ชีวิตดำเนินต่อไป ขาดเค้าแล้วมันจะตาย ให้รู้ไป

ในค่ำคืนที่เหว่ว้า ฉันนั้นจ้องตากับความเหงา
ยอมรับความเศร้า ไม่ไปไหน

บอกตัวเองตั้งแต่นี้ ไม่มีเค้าไม่เป็นไร
จากนี้ต้องทำหัวใจให้ชิน

ชีวิตมันเหงาเพียงใดก็ต้องชิน


โดย ผู้ชายสายน้ำ

เรียนรู้...ความเจ็บปวด








ความเจ็บปวด

อัลบั้ม: Beautiful Ride
ศิลปิน: ปาล์มมี่


ใคร คนที่เคยรู้ใจ รอยยิ้มที่เคยรู้จัก
กำลังจะหายลับไปทุกที

คำพูดที่ซึ้งใจ ที่เคยว่ารักมากมาย
ไม่มีอีกแล้วนับจากนี้

แต่คนจะไปก็ต้องไป
รักเท่าไหร่แต่ฉันคงทำได้เท่านี้

ได้แต่ยินยอมรับความเจ็บปวด
และฉันจะอดทนแม้แทบขาดใจ
ไม่อาจจะวิ่งหนีความจริงที่โหดร้าย
จะพร้อมจะยอมเข้าใจความเปลี่ยนแปลง

จะอยู่เพื่อเรียนรู้ความเจ็บปวด
จะฝืนเดินต่อไปแม้ไร้เรี่ยวแรง
และคงมีที่สักวันหนึ่งฉันจะเข้มแข็ง
ถึงแม้ไม่รู้ต้องนานซักเท่าไร

เธอ เธอเคยเป็นทุกสิ่ง จะขอขอบคุนทุกอย่าง
ที่เคยให้ฉันจนวันนี้


และคงมีที่สักวันหนึ่งฉันจะเข้มแข็ง
.....ถึงแม้ไม่รู้ต้องนาน..ซักเท่าไร.....


โดย ผู้ชายสายน้ำ

Sunday, September 24, 2006

Library

I have come to this libary two weeeks ago. It is quite a modern library that I have ever seen, the atmosphere inside is also nice. The facilities are quite good especially wireless internet. We can connect without requiring registration, Cool!
The name of Pueay Libary has been heard for a long time but I just tried to come here last week because of some expectation to see something. However, I fell in love with this place for doing my work and also have some expectation to meet something. Hope that all of my work would finish by this place. The place which has both quietness and motivation.

Wednesday, September 06, 2006

Soulmate Fiction

Hi BloG, long time no update.
This is a human feeling which I want to keep it here.

<====================>
I want to leave a message to someone if it will reach that one.
I never think that I will miss you so much like this.
I never think that I will do anything for someone as much as like this.
I never think that no one can disturb my feeling much like this.
But you are, you are.

It is not like a boyfriend/girlfriend style of relationship, but for me it is the closed friend style. You know, I never have a closed friend who I would like to share my world with or would like to join someone's world. Mostly, I never concern to other behaviours or feelings that impact to me until I think you should be my precious "soulmate". For my thinking, the soulmate need not to be bf/gf but it should be someone that we are happy to stay and really want to show our real human things. Someone who can accept and understand our best and worse behaviours without thinking about giving up to be a friend. It would be very amazing things that those are the soulmates of each other. The soulmate might be the same as bf/gf but some might not. The soulmate might be the same sex or different sex but there is surely no sexual relationships.

I used to think that you could be my soulmate because you could break down many walls that I have been built for protecting myself from disappointment from walking through people.
I used to think that you might understand me and feel the same as me when I feel lonely and have no one to stay beside.
I used to think that we can go along together as a best closed friend and we will feel happy everyday when we wake up and feel that someone is thinking about us, but it is not true for me, it's not true.

You did not want to share your world with me.
You did not want me to disturb you any trivial when you are working or even care what I am speaking and how I really care you.
I spend full of my mind to make you happy when you feel down even I have to loss something but you never look back at me when I feel the same.
Even, I feel so glad when you called me only when you want to travel, but I still feel so desperate when there is no other calls from you to check up how am I.
I am not your slave but I want to be your accompany. Why don't you take care me as I take care you. I did not expect much from you but I want to be only your closed friend, you couldn't give me that?

I confirm again that I don't want the bf/gf relationship, but I just want a closed friend who are happy to share many things with me and also happy to listen to me. You need not to give me anything just sincerity and loyalty. I know that you might have many friends who you have to join with, and you might not have personal time for me. Indeed, I do not want to steel your time from your friends but would you just let me be one part of your world. Ask me some, how am I. Tell me some what will you do. Invite me some if you think it is possible for me to join your activities. Bring me with you too, because I am always lonely and have no one that I could stay with happiness.

I might ask you too much. You may not possible to give me anything. As I said, "I will not disturb you" unless you do not want me. Do you understand the meaning of it? It means I am ashame to follow you. I feel so guilty with myself why you are so influence with my feeling. I felt hurt from you many many times. However, I have to preseve my last prestige to convoy my speech. That makes me far far away from you because you never need me or care on me. From my thought,, you can cut me out from your life immediately if you want which is the same as the previous people who walked through your life. I do not want to be like that and I also do not want to do like that.

The tide and time waits for no man, why don't we make a good relationships with each others instead of doing some unhappiness things? Or if you don't want the way I am, you just simply tell me once. It would be better for me to hurt only once.


===From Desperate Soulmate Legend=====

Sunday, July 23, 2006

Saturday, July 15, 2006

ทำอะไรสักอย่างสิพ่อหนุ่ม...

สติ สมาธิ ปัญญา
ไม่รู้ว่าส่วนไหนขาดส่วนไหนเกินกันแน่
แต่ที่แน่ๆ คือขาดแรงขับเคลื่อนจะทำในสิ่งที่ควรทำ
เมื่อไหร่จะมาสักทีแรงขับเคลื่อนที่เคยมี
จะำได้ทำอะไรดีๆ หลายๆ อย่างที่อยากทำ
เฮ้อ...

Sunday, July 09, 2006

ภาวะผู้นำ

หากจะืำทำงานสักงานหนึ่งให้้สำเร็จลุล่วงได้ โดยตัวเราไม่ต้องทำทุกอย่างทั้งหมด เหนื่อยน้อยที่สุด แต่ได้งานที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด สิ่งที่ต้องมีและำสำคัญอย่างมากคือ "ภาวะผู้นำ" ซึ่งเราคิดได้ว่า ผู้นำไม่จำเป็นต้องเก่งสุด ฉลาดสุด หรือมีบารมีสูงสุดก็เป็นผู้นำได้ ในทางกลับกัน แม้ผู้นำจะฉลาด แต่ไม่เฉลียวในการจัดการและสั่งการแล้วล่ะก็ งานนั้นมีอันต้องลำบากมากขึ้น เหนื่อยขึ้นแน่ๆ

สิ่งแรกๆ ของภาวะผู้ำนำ คือ การจูงใจคนให้มาทำงานด้วยใจ แม้ว่าระบบเจ้านายลูกน้อง ที่เป็นภารกิจตามสายงานจะบังคับให้ ลูกน้องต้องปฏิบัติตามเจ้านายโดยปริยายแล้ว แต่การที่จะทำให้งานได้ผลสำเร็จดีนั้น ผู้นำจะต้องทำอย่างไรก็ตามให้ลูกน้องทำงานให้ด้วยใจ คล้ายๆ กับการซื้อใจกันนั่นเอง หากลูกน้องไม่จริงใจต่อการทำงานแล้ว ถ้าทำให้ผลสำเร็จของงานเสียไป อย่างมากลูกน้องก็แค่ถูกเจ้านายด่าหรือมากสุดก็ถูกไล่ออก แต่เจ้านายซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงก็ คงจะไ้ม่ดีแน่ถ้าโปรเจคตัวเองไม่สำเร็จ ในทางกลับกันถ้างานสำเร็จมาก คนที่จะได้หน้าก็คงเป็นเจ้านายก่อนแล้วค่อยตกลงมาถึงลูกน้อง ดังนั้นการให้ใจกันทำงานก็น่าจะทำให้งานออกมาเต็มที่ มากกว่าการมาคำนึงถึงผลประโยชน์ทั้งด้านการเงินและชื่อเสียงที่จะได้รับ ถ้ามองให้ชัด ก็หมายถึงการมองที่งาน ระบบการทำงาน มากกว่าข้ามไปมองที่ผลของมัน ทำอย่างไรให้ทุกคนรู้สึกดีกับงานที่มอบหมายให้ เต็มใจที่จะทำ หรือแม้งานนั้นจะไม่มีใครอยากจะทำ เราจะมีวิธีการจัดการอย่างไรให้มีคนรับไปทำได้ โดยที่ไม่ได้รู้สึกว่าถูกบังคับให้ทำ

และอย่างหนึ่งที่ผู้นำไม่ควรจะทำ คือ การเขวี้ยงงูไม่พ้นคอ นั่นคือมอลหมายงานในระดับ operator ให้ใครสักคนทำ แล้ววกกลับมาทำเสียเอง และการล้วงลูกงานของลูกน้องมาทำ ปัญหานี้เกิดจากการแบ่งระดับความสำคัญของงานไม่ดีพอ อาจจะฟังดูง่ายว่า "put the right man on the right job" แต่คุณจะรู้ว่า right man กับ right job จริงๆ แล้วมีรายละเีอียดอีกมาก ซึ่งเราจะทราบหลังจากทำงานร่วมกันมาระยะหนึ่ง หรือจากสารสนเทศแวดล้อมที่ผู้นำจะ้ต้องมีเซนส์ระดับหนึ่ง การจะรู้จักลูกน้องว่าเป็นคนยังไง ชอบแบบไหน คิดอย่างไร เราคงไม่สามารถถามกันได้ตรงๆ แต่เราเรียนรู้ได้จากสิ่งแวดล้อม รอบๆ ตัวผู้นั้นหรือพฤติกรรมที่แสดงออกมา แล้วผู้นำก็ต้องใ้ช้เทคนิคเฉพาะตัวในการเอาชนะใจ และเข้าใจเค้าให้ได้ จึงจะประสบผลสำเร็จ

งานที่สำคัญของผู้นำคือ "งานที่เกี่ยวกับการคิด ตัดสินใจ และแก้ปัญหา" ซึ่งงานออกแบบระบบงานและพยายามอุดช่องโหว่ในงานตัวเอง ก็เป็นงานที่สาหัสอยู่เหมือนกัน ถ้าจะทำให้ดีก็คงไม่ได้ใช้เวลาแค่ชั่วประเดี๋ยวแน่นอน ความรอบคอบและคิดไว้่ก่อนเกี่ยวกับปัญหาที่จะตามมา พร้อมแนวทางแก้ไข ฤาก็เป็นสิ่งที่ต้องทำ เพื่อป้องกันความผิดพลาดให้มากที่สุด และจะไม่เหนื่อยในการที่ต้องมาตามแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้น การป้องกันปัญหาอาจจะง่ายกว่าการนั่งตามแก้ปัญหาก็เป็นได้ บางคนอาจจะคิดว่ามีัปัญหาก็ดีจะได้เรียนรู้ในการแก้ไข นั่นก็ถูกส่วนหนึ่งแต่ การคิดถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้และแนวทางการแก้ไขไว้ล่วงหน้า ก็เป็นการบริหารความคิดของเราให้ครอบคลุมทั่วถึงในทุกๆ แนวทาง อันจะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนต่อในงานนี้หรืองานอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ผู้นำจะเป็นผู้นำไม่ได้เลย หากไม่ได้รับการยอมรับจากทีมงาน งานจะประสบความสำเร็จได้คงไม่ได้เกิดจากผู้นำอย่างเดียว แต่คงต้องเป็นระบบงานที่มีประสิทธิภาพ ที่มันสามารถขับเคลื่อนตัวไปได้เองโดยเกิดปัญหาและความผิดพลาดน้อยที่สุด นั่นแลจึงแสดงถึงศักยภาพของผู้นำ ...

บทความโดย BeWise

Saturday, July 08, 2006

Ancient City





Last two weeks, I went out for refreshment at Ancient City, Samutprakarn, Thailand. This place reproduces a lot of ancient places around Thailand. It is worth for everyone who does not have much time for travelling around Thailand. Moreover, one of my hobby is being photographer. I have seen many superior photos but I don't know the detailed techniques for shooting that photos. So, I just simply learn by myself and keep taking photos.
Some photos from hundreds are selected as shown but they are not the best :P

Sunday, July 02, 2006

For the King

Thy graces count beyond, thousand and one
By thy hand justice's done, compassionate
Art pure as the sun, truly life-giving
Loyalty we owe affectionate, transcending filial love.

บารมีพระมากพ้น รำพัน
พระพิทักษ์ยุติธรรม์ ถ่องแท้
บริสุทธิ์ดุจดวงตะวัน ส่องโลก ไซร้แฮ
ทวยราษฎ์รักบาทแม้ เยี่ยงด้วยปิตุรงค์...

Friday, June 23, 2006

Funny Massage Chair :P

Here

------
Oh.. /boot and / need to be primary!

Wednesday, June 21, 2006

seminar

Conviction
conv(s->u) = 1/imp(s->~u)
it is generalized from improvement but taken negative case into consideration too.


Semi-Supervised Learning
using graph-based to connect nearest all instances in the datasets. Estimating the labels of unknown instances by energy propagation (or other functions) of connected instances.

Multiple-Instance Learning
we know the negative is all negative but for positive group is combined with at least one positive. An example of application is content-based image retrieval

Monday, June 19, 2006

ไม่ไหวแล้ว...เหนื่อยมาก

วันนี้ทดลองติดตั้ง Fedora Core 5
กับ compile apt ต่างๆ อันได้แก่ Apache (HTTP Daemon 2.2.2), MySQL (5.0.22), PostgreSQL (8.1.4), PHP (5.1.4)
ทุกตัวเป็นเวอร์ชั่นใหม่กิ๊กทั้งหมด ปัญหาตามมาล้านแปดมากมาย
หลักๆ ก็คือตำแหน่งของไฟล์ที่สร้างขึ้นไม่เหมือนเดิม ต้องหากันวุ่นวายอ้วกแตก
เพราะในแมนวลกับของจริง ไม่ตรงกันเลย ทั้ง library และ bin files
ประเด็นคือ จะใช้สอนพรุ่งนี้อยู่แล้วแต่ไม่สามารถทำให้มันจบลงในสามชั่วโมงแน่ๆ ถ้าทำตามแมนวลอ่ะนะ
พรุ่งนี้คงเหนื่อยอีกวันแหงๆ ภาวนาว่าขอให้อาจารย์สักคนว่าง เข้ามาช่วยด้วยเถิด.
-------
วันนี้มีคุณลุงโปรเฟสเซอร์จากเยอรมัน มาเยี่ยมชมที่แลบกันหลายคนทีเดียว
จากห้องเงียบๆ ก็เกิดอาการตลาดฝรั่งแตก ...จนต้องมีคนคอยปรามและเรียกตัวกันกลับไป
เพื่อไปเวียนห้องอื่นๆ ต่อ จริงๆ ก็ไม่มีอะไรจะคุยหรอก เรื่องงานวิจัยก็งั้นๆ เพราะทำคนละสายกัน
แต่ก็พูดนู่นถามนี่ไปเรื่อยๆ เพื่อจะเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับอาคันตุกะ
ติดใจลุงอยู่คนนึง แกเห็นบูมเมอแรงที่ติดข้างตู้เราก็สนใจมาก เดินเข้ามาถามโน่นถามนี่
แกแนะนำวิธีปา และวิธีฝนให้มันเหวี่ยงกลับมาให้ซะด้วย ตั้งแต่ได้มาก็ยังไม่เคยลองเหมือนกัน
แกเล่าเรื่อง ที่แกบอกว่าตลกว่า ชนเผ่าอบอริจินต้องการที่จะทิ้งบูมเมอแรงแต่เขวี้ยงเท่าไหร่ๆ มันก็กลับมาทุกที
ก็เลยทิ้งไม่ได้ จำได้ว่าเคยอ่่านเรื่องนี้แล้วนะแม้จะเป็นครั้งแรกแต่ก็ไม่ตลกเลย ไว้วันหลังจะเอาเรื่องตลกที่คิดว่าตลกจริงๆ มาแปะดีกว่า... (จะได้รู้ว่าเส้นขำอยู่ระดับไหน)

Sunday, June 18, 2006

อื่ม....มมม...มม

กลับมาอยู่เมืองไทยได้พักใหญ่แล้วแหละ แต่เพิ่งได้มีโอกาสกลับมาหาบล็อกอีกครั้งก็วันนี้เอง
ช่วงนี้รู้สึกแปลกๆ จิตใจไม่ปกติ ไม่ตั้งมั่น เลื่อนลอยอย่างหาหลักไม่ได้
คงเพราะมีหลายๆ เรื่องในชีวิตที่ต้องคิด วางแผน และตัดสินใจไปพร้อมๆ กัน
ทำให้เกิดความกลัวอนาคตขึ้นมาอย่างเสียไม่ได้ กลัวการตัดสินใจว่าดีที่สุดเหมาะที่สุดแล้วหรือยัง
ซึ่งบังคับให้เราต้องยอมรับผลทั้งดีและร้ายที่จะเกิดในอนาคตโดยปริยาย
แต่อย่างไร เวลาก็ไม่เคยหยุด ความทุกข์ความสุขก็ไม่เคยหยุดนิ่งเหมือนกัน
ทุกอย่างขึ้นอยู่กับใจอย่างเดียวจริงๆ ถ้าท้อถ้าถอย แน่นอนว่าโอกาสก็ยากที่จะหวนคืนมาอีก
ภาระที่จะนำไปสู่เป้าหมายก็ยากยิ่งเสียเต็มกำลัง เลยอดสงสัยไม่ได้ว่าท่านทำได้อย่างไร
เป้าประสงค์ของท่านกับเราก็ไม่ต่างกันนัก แต่สถานะที่แตกต่างกัน เชื่อแน่ว่าอุปสรรคท่านต้องมากกว่าแน่นอน
ทำอย่างไรถึงจะเจริญรอยตามได้แค่เศษเสี้ยวธุลีก็ยังดี ทำอย่างไร ทำอย่างไร??

-------------------
มาเข้าชีวิตประจำวันดีกว่า
ตั้งใจว่าจะพยายามเขียนเพื่อเก็บข้อคิดความรู้ที่ได้ในแต่ละวัน (เป็นคนชอบคิด) และเพื่อเตือนความจำ (แต่ชอบลืม)
วันนี้นัดกับเพื่อนภาคคอมรุ่นเก๋าทั้งหลายที่ไม่ได้เจอกันเนิ่นนาน
นัดนี้นัดกันข้ามเดือนทีเดียว จองวันที่กันไว้เสร็จสรรพกันพลาด มานับๆ ดูแล้ว เรานัดกันปีละครั้ง แต่เผอิญปีที่แล้วไม่ได้ไป เลยเจอกันในรอบสองปีเลย
เพื่อนๆทุกคน(เท่าที่เจอเจ็ดท่าน) ยังสบายดีกันอยู่ เปลี่ยนงานการกันตามถนัด ขอบคุณในความน่ารักของเพื่อนๆ ที่ย้อนให้เราคิดถึงอดีตสนุกๆ ของเรากัน
แต่ขอโทษจริงๆ ที่วันนี้อาจจะดูไม่ร่าเริ่งเท่าไหร่ เพราะวันนี้ใจไม่ค่อยปกติ ไว้โอกาสหน้าหวังว่าเราจะเจอกันอีกนะ
"การรู้สึกสนิทใจกับใครแบบไม่มีเงื่อนไขนั้น ก่อให้เกิดความรู้สึกสุขใจแบบไม่มีที่สิ้นสุดเช่นกัน"

Wednesday, January 11, 2006

Firt Meal on New Year


On the 1st of new year, I give the present to myself by going to eat cake buffet. The cake buffet (ヶーキ 食べ放題) is the famous thing that we should do in Japan. It is really delicious. I searched on the internet with my friend and decision to go this place because there are 30 kinds of cake for tasting. Wow! It locates on the top floor of 25-floor Metropolitan Hotel near to Ikebukuro station. Wonderful panorama view!! The buffet price is approx. 1500 Yen per person but it is approx. 300-400 Yen per piece if we buy in the shop outside. It is worth to eat as much as we want even it is suffering in the last dishes. Let's see and slobber!

Wednesday, January 04, 2006

Tokyo Disneyland (28 Dec 05)

I have a good chance to visit "Tokyo Disneyland". My Thai friend asks me to escort her in joining this trip. She knows one Japanese guy, Nori, who used to be an exchanged student in SIIT. Nori invited Koji who is his juniors in his university and Koji just came back from Thailand by being exchanged student in SIIT. I think I am quite familiar with his face when I met him. After we knew the fact, I think that world is really round. Koji invites his girlfriend, Aya jung, who is a cute japanese girl and really nice. Her job is kindergarten teacher and she really is a generous teacher for kids.
We spend a whole day in Disneyland with various playthings and a lot of fun. Those friends are very kind to me and being the good guides even they used to visit here many times.

Oh..! I finally reached Disneyland.